การเตรียมถั่ว
การเตรียมถั่ว
How to Prepare U.S. Pulses
How to Prepare
U.S. Pulses
U.S. Pulses
ก่อนที่นำถั่วแห้งอเมริกามาประกอบอาหาร ควรจะแช่ถั่วในน้ำ 4-18 ชั่วโมงก่อน
ซึ่งแนะนำให้เลือกแช่ 1 จาก 3 วิธีดังต่อไปนี้
ซึ่งแนะนำให้เลือกแช่ 1 จาก 3 วิธีดังต่อไปนี้
1. การแช่เย็น
2. การแช่ร้อน
3. การแช่โดยการนำไปต้ม
2. การแช่ร้อน
3. การแช่โดยการนำไปต้ม
1. การแช่เย็น หรือการแช่แบบดั้งเดิม
เติมน้ำอุณหภูมิห้องให้ท่วมขึ้นมาจากถั่ว และแช่ไว้ข้ามคืน
ใช้สัดส่วนดังต่อไปนี้: น้ำ 3 ส่วนต่อถั่ว 1 ส่วน
ตรวจสอบให้แน่ใจว่าน้ำอยู่ในระดับอุณหภูมิห้อง เพราะหากเป็นน้ำร้อนอาจทำให้ถั่วเปรี้ยวได้
และหากเป็นน้ำเย็นจำทำให้การคืนน้ำช้าและจะทำให้ถั่วต้องใช้เวลาในการต้มนาน
เมื่อแช่ทิ้งไว้ค้างคืนแล้ว เทน้ำแช่ทิ้งไป
เติมน้ำอุณหภูมิห้องให้ท่วมขึ้นมาจากถั่ว และแช่ไว้ข้ามคืน
ใช้สัดส่วนดังต่อไปนี้: น้ำ 3 ส่วนต่อถั่ว 1 ส่วน
ตรวจสอบให้แน่ใจว่าน้ำอยู่ในระดับอุณหภูมิห้อง เพราะหากเป็นน้ำร้อนอาจทำให้ถั่วเปรี้ยวได้
และหากเป็นน้ำเย็นจำทำให้การคืนน้ำช้าและจะทำให้ถั่วต้องใช้เวลาในการต้มนาน
เมื่อแช่ทิ้งไว้ค้างคืนแล้ว เทน้ำแช่ทิ้งไป

2. การแช่แบบร้อน หรือการแช่แบบเร็ว
วิธีการนี้เป็นวิธีการที่เร็วที่สุดหากคุณลืมแช่ถั่วอเมริกาหรือถ้าคุณมีเวลาน้อยและรีบ นี้คือวิธีการการที่สะดวกที่สุดสำหรับเชฟ
สำหรับวิธีการนี้ให้แช่ถั่วด้วยน้ำและต้มประมาณ 2 นาที หลังจากนั้นใหปิดฝาและแช่ไว้ประมาณหนึ่งหรือสองชั่วโมง
เทน้ำที่แช่ออก ล้างถั่วจากอเมริกาและเติมน้ำลงไปใหม่ก่อนที่จะประกอบอาหาร
วิธีการนี้เป็นวิธีการที่เร็วที่สุดหากคุณลืมแช่ถั่วอเมริกาหรือถ้าคุณมีเวลาน้อยและรีบ นี้คือวิธีการการที่สะดวกที่สุดสำหรับเชฟ
สำหรับวิธีการนี้ให้แช่ถั่วด้วยน้ำและต้มประมาณ 2 นาที หลังจากนั้นใหปิดฝาและแช่ไว้ประมาณหนึ่งหรือสองชั่วโมง
เทน้ำที่แช่ออก ล้างถั่วจากอเมริกาและเติมน้ำลงไปใหม่ก่อนที่จะประกอบอาหาร
3. การแช่โดยการนำไปต้ม
วิธีนี้เป็นวิธีที่เร็วที่สุดในการแช่ถั่ว หากคุณมีเวลาน้อยในการเตรียมถั่วจากอเมริกา
ให้เติมน้ำให้ท่วมถั่วขึ้นมาประมาณ 7 ซม. นำไปต้ม 5 นาที จากนั้นนำออกจากเตาต้ม ทิ้งไว้ให้เย็นตามธรรมชาติ
จากนั้นเทน้ำแช่ถั่วทิ้งไป ล้างถั่วให้สะอาด และเตรียมตำรับอาหารของคุณ
หลังจากแช่ถั่ว ให้เทน้ำที่แช่ถั่วทิ้ง เติมน้ำลงไปใหม่ก่อนจะนำไปประกอบอาหาร
วิธีนี้เป็นวิธีที่เร็วที่สุดในการแช่ถั่ว หากคุณมีเวลาน้อยในการเตรียมถั่วจากอเมริกา
ให้เติมน้ำให้ท่วมถั่วขึ้นมาประมาณ 7 ซม. นำไปต้ม 5 นาที จากนั้นนำออกจากเตาต้ม ทิ้งไว้ให้เย็นตามธรรมชาติ
จากนั้นเทน้ำแช่ถั่วทิ้งไป ล้างถั่วให้สะอาด และเตรียมตำรับอาหารของคุณ
หลังจากแช่ถั่ว ให้เทน้ำที่แช่ถั่วทิ้ง เติมน้ำลงไปใหม่ก่อนจะนำไปประกอบอาหาร
ทำไมต้องแช่ถั่ว ?
การแช่ถั่วไว้ล่วงหน้าก่อนนำไปประกอบอาหารจะช่วยให้ถั่วนิ่มขึ้น และสุกง่ายขึ้น การแช่ถั่วจะช่วยลดเวลาในการต้มให้สุก และช่วยรักษาคุณค่าทางโภชนาการให้คงอยู่ (เวลาในการประกอบอาหารสำหรับถั่วที่ไม่ได้แช่ อาจต้องใช้เวลาถึง 2 ชั่วโมง) ถั่วที่แช่ไว้นานค้างคืนจะช่วยให้น้ำตาลจากถั่วเจือจางไป ง่ายต่อการย่อย
อย่างไรก็ตาม ถั่วของเราบางชนิดก็ไม่จำเป็นต้องแช่น้ำทิ้งไว้
อย่างไรก็ตาม ถั่วของเราบางชนิดก็ไม่จำเป็นต้องแช่น้ำทิ้งไว้
เชฟสามารถเตรียมถั่วลันเตาผ่าซีกและถั่วเลนทิลจากอเมริกา.โดยไม่จำเป็นต้องแช่น้ำทิ้งไว้
เป็นสิ่งสำคัญที่ต้องระลึกไว้ว่าถั่วที่มีความแข็งที่สุด อย่างเช่น ถั่วลูกไก่ จำเป็นต้องแช่น้ำไว้นานถึง 12 ชั่วโมง

ทำไมต้องแช่ถั่ว ?
การแช่ถั่วไว้ล่วงหน้าก่อนนำไปประกอบอาหารจะช่วยให้ถั่วนิ่มขึ้น และสุกง่ายขึ้น การแช่ถั่วจะช่วยลดเวลาในการต้มให้สุก และช่วยรักษาคุณค่าทางโภชนาการให้คงอยู่ (เวลาในการประกอบอาหารสำหรับถั่วที่ไม่ได้แช่ อาจต้องใช้เวลาถึง 2 ชั่วโมง) ถั่วที่แช่ไว้นานค้างคืนจะช่วยให้น้ำตาลจากถั่วเจือจางไป ง่ายต่อการย่อย
อย่างไรก็ตาม ถั่วของเราบางชนิดก็ไม่จำเป็นต้องแช่น้ำทิ้งไว้
อย่างไรก็ตาม ถั่วของเราบางชนิดก็ไม่จำเป็นต้องแช่น้ำทิ้งไว้
เชฟสามารถเตรียมถั่วลันเตาผ่าซีกและถั่วเลนทิลจากอเมริกา.โดยไม่จำเป็นต้องแช่น้ำทิ้งไว้
เป็นสิ่งสำคัญที่ต้องระลึกไว้ว่าถั่วที่มีความแข็งที่สุด อย่างเช่น ถั่วลูกไก่ จำเป็นต้องแช่น้ำไว้นานถึง 12 ชั่วโมง
ระยะเวลาในการแช่ถั่ว
- ถั่วลูกไก่ แช่ไว้ประมาณ 8-12 ชั่วโมง
- ถั่วพินโต แช่ไว้ประมาณ 4-8 ชั่วโมง
- ถั่วลันเตา แช่ไว้ประมาณ 4-8 ชั่วโมง
- ถั่วลันเตาเหลืองผ่าซีก ไม่จำเป็นต้องแช่
- ถั่วเลนทิลสีแดงผ่าซีก ไม่จำเป็นต้องแช่
- ถั่วเลนทิลสีเขียว ไม่จำเป็นต้องแช่ แต่แนะนำให้แช่
- ถั่วดำ (ถั่วเต่า) แช่ไว้ประมาณ 4-8 ชั่วโมง
- ถั่วขาวเม็ดเล็ก แช่ไว้ประมาณ 4-8 ชั่วโมง
- ถั่วรูปไต แช่ไว้ประมาณ 4-8 ชั่วโมง
- ถั่วตาดำ (Cow Peas) แช่ไว้ประมาณ 4-8 ชั่วโมง
- ถั่วลิมา แช่ไว้ประมาณ 4-8 ชั่วโมง
- ถั่วแครนเบอร์รี่ แช่ไว้ประมาณ 4-8 ชั่วโมง
ถั่วแต่ละชนิดจะใช้เวลาในการแช่ถั่ว รวมไปถึงระยะเวลาในการต้มให้สุก แตกต่างกันออกไป
ระยะเวลาในการต้มให้ถั่วสุก
มีหลายปัจจัยที่ส่งผลต่อระยะเวลาในการต้มถั่วแต่ละชนิด ซึ่งรายละเอียดด้านล่างนี้จะเป็นเพียงคำแนะนำเบื้องต้นในการต้มถั่วเท่านั้น
- ถั่วลันเตาสีเขียว แช่ไว้ประมาณ 1 ถึง 1 ½ ชม. หรือ 30-60 นาที
- ถั่วลันเตาเหลืองผ่าซีก แช่ไว้ประมาณ 1 ถึง 2 ชั่วโมง หรือ 30-40 นาที
- ถั่วเลนทิลแดงผ่าซีก แช่ไว้ประมาณ 10 นาที
- ถั่วเลนทิลสีเขียว แช่ไว้ประมาณ 10-13 นาที
- ถั่วลูกไก่ แช่ไว้ประมาณ 2-3 ชั่วโมง
- ถั่วพินโต แช่ไว้ประมาณ 1-3 ชั่วโมง
- ถั่วดำ (ถั่วเต่า) แช่ไว้ประมาณ 90 นาที
- ถั่วขาวเม็ดเล็ก แช่ไว้ประมาณ 90 นาที
- ถั่วรูปไต แช่ไว้ประมาณ 90 นาที
- ถั่วชมพู แช่ไว้ประมาณ 60 นาที
- ถั่วลิมา แช่ไว้ประมาณ 60 นาที
- ถั่วตาดำ (Cow Peas) แช่ไว้ประมาณ 15 นาที
- ถั่วแครบเบอร์รี่ แช่ไว้ประมาณ 15 นาที
อายุและขนาดของถั่ว ระดับความร้อนที่ใช้ในการต้มถั่ว รวมไปถึงอีกหลายสิ่ง มีผลต่อระยะเวลาในการต้มถั่วแต่ละชนิดให้สุกไม่พร้อมกัน ปัจจัยต่าง ๆ เช่น

ระยะเวลาในการแช่ถั่ว
- ถั่วลูกไก่ แช่ไว้ประมาณ 8-12 ชั่วโมง
- ถั่วพินโต แช่ไว้ประมาณ 4-8 ชั่วโมง
- ถั่วลันเตา แช่ไว้ประมาณ 4-8 ชั่วโมง
- ถั่วลันเตาเหลืองผ่าซีก ไม่จำเป็นต้องแช่
- ถั่วเลนทิลสีแดงผ่าซีก ไม่จำเป็นต้องแช่
- ถั่วเลนทิลสีเขียว ไม่จำเป็นต้องแช่ แต่แนะนำให้แช่
- ถั่วดำ (ถั่วเต่า) แช่ไว้ประมาณ 4-8 ชั่วโมง
- ถั่วขาวเม็ดเล็ก แช่ไว้ประมาณ 4-8 ชั่วโมง
- ถั่วรูปไต แช่ไว้ประมาณ 4-8 ชั่วโมง
- ถั่วตาดำ (Cow Peas) แช่ไว้ประมาณ 4-8 ชั่วโมง
- ถั่วลิมา แช่ไว้ประมาณ 4-8 ชั่วโมง
- ถั่วแครนเบอร์รี่ แช่ไว้ประมาณ 4-8 ชั่วโมง
ถั่วแต่ละชนิดจะใช้เวลาในการแช่ถั่ว รวมไปถึงระยะเวลาในการต้มให้สุก แตกต่างกันออกไป
ระยะเวลาในการต้มให้ถั่วสุก
มีหลายปัจจัยที่ส่งผลต่อระยะเวลาในการต้มถั่วแต่ละชนิด ซึ่งรายละเอียดด้านล่างนี้จะเป็นเพียงคำแนะนำเบื้องต้นในการต้มถั่วเท่านั้น
- ถั่วลันเตาสีเขียว แช่ไว้ประมาณ 1 ถึง 1 ½ ชม. หรือ 30-60 นาที
- ถั่วลันเตาเหลืองผ่าซีก แช่ไว้ประมาณ 1 ถึง 2 ชั่วโมง หรือ 30-40 นาที
- ถั่วเลนทิลแดงผ่าซีก แช่ไว้ประมาณ 10 นาที
- ถั่วเลนทิลสีเขียว แช่ไว้ประมาณ 10-13 นาที
- ถั่วลูกไก่ แช่ไว้ประมาณ 2-3 ชั่วโมง
- ถั่วพินโต แช่ไว้ประมาณ 1-3 ชั่วโมง
- ถั่วดำ (ถั่วเต่า) แช่ไว้ประมาณ 90 นาที
- ถั่วขาวเม็ดเล็ก แช่ไว้ประมาณ 90 นาที
- ถั่วรูปไต แช่ไว้ประมาณ 90 นาที
- ถั่วชมพู แช่ไว้ประมาณ 60 นาที
- ถั่วลิมา แช่ไว้ประมาณ 60 นาที
- ถั่วตาดำ (Cow Peas) แช่ไว้ประมาณ 15 นาที
- ถั่วแครบเบอร์รี่ แช่ไว้ประมาณ 15 นาที
อายุและขนาดของถั่ว ระดับความร้อนที่ใช้ในการต้มถั่ว รวมไปถึงอีกหลายสิ่ง มีผลต่อระยะเวลาในการต้มถั่วแต่ละชนิดให้สุกไม่พร้อมกัน ปัจจัยต่าง ๆ เช่น
น้ำ
เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่สำคัญ หากน้ำที่เราใช้ต้มเป็น “น้ำกระด้าง” (คือน้ำที่ได้จากการขุดเจาะบ่อบาดาล โดยมีองค์ประกอบของแร่ธาตุในปริมาณสูงถึง 120 มิลลิกรัมต่อน้ำ 1 ลิตร แร่ธาตุเหล่านี้ประกอบด้วย แคลเซียม เกลือแมกนีเซียม และธาตุเหล็ก) แร่ธาตุเหล่านั้นที่อยู่ในน้ำ ก็จะมีผลต่อระยะเวลาในการต้มและทำแช่ถั่ว
อะไรที่ห้ามใส่ลงไประหว่างต้มถั่วจากอเมริกา?
ส่วนผสมบางชนิดหากใส่ก่อนต้ม หรือระหว่างต้มถั่ว อาจส่งผลกระทบต่อระยะเวลาในการต้มถั่วและความนิ่มของถั่วที่ต้ม
ส่วนผสมที่มีปริมาณแคลเซียมสูง
เช่น น้ำตาลอ้อย มีปริมาณแคลเซียมสูง ฉะนั้นให้ใส่ได้หลังจากที่ต้มถั่วเสร็จเรียบร้อยแล้ว
เกลือ?
หากใส่เกลือไประหว่างต้มถั่วหรือผสมเกลือลงไปในน้ำต้มถั่ว จะมีผลทำให้ถั่วแข็ง ให้ใส่ไปตอนที่ถั่วนิ่มแล้วเท่านั้น
น้ำ
เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่สำคัญ หากน้ำที่เราใช้ต้มเป็น “น้ำกระด้าง” (คือน้ำที่ได้จากการขุดเจาะบ่อบาดาล โดยมีองค์ประกอบของแร่ธาตุในปริมาณสูงถึง 120 มิลลิกรัมต่อน้ำ 1 ลิตร แร่ธาตุเหล่านี้ประกอบด้วย แคลเซียม เกลือแมกนีเซียม และธาตุเหล็ก) แร่ธาตุเหล่านั้นที่อยู่ในน้ำ ก็จะมีผลต่อระยะเวลาในการต้มและทำแช่ถั่ว
อะไรที่ห้ามใส่ลงไประหว่างต้มถั่วจากอเมริกา?
ส่วนผสมบางชนิดหากใส่ก่อนต้ม หรือระหว่างต้มถั่ว อาจส่งผลกระทบต่อระยะเวลาในการต้มถั่วและความนิ่มของถั่วที่ต้ม
ส่วนผสมที่มีปริมาณแคลเซียมสูง
เช่น น้ำตาลอ้อย มีปริมาณแคลเซียมสูง ฉะนั้นให้ใส่ได้หลังจากที่ต้มถั่วเสร็จเรียบร้อยแล้ว
เกลือ?
หากใส่เกลือไประหว่างต้มถั่วหรือผสมเกลือลงไปในน้ำต้มถั่ว จะมีผลทำให้ถั่วแข็ง ให้ใส่ไปตอนที่ถั่วนิ่มแล้วเท่านั้น
ส่วนผสมอื่น ๆ ที่ควรระวัง
การใส่ส่วนผสมที่เป็นกรด เช่น เครื่องปรุงรสจากแตงกวาดอง ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของมะเขือเทศ เช่น ซอสมะเขือเทศ รวมไปถึงไวน์ ผลไม้ หรือน้ำผลไม้ที่มีรสเปรี้ยว น้ำส้มสายชู จะทำให้ถั่วไม่นิ่ม
เบกกิ้งโซดา
(โซเดียมไบคาร์บอเนต)?
บางสูตรอาหารทั้งแบบเก่าและใหม่สำหรับถั่วจากอเมริกา แนะนำให้ใส่เบกกิ้งโซดาเพื่อช่วยลดแก๊ส คงสภาพสีของถั่วไว้ ทำให้ถั่วสุกเร็วขึ้น รวมไปถึงนิ่มง่ายขึ้น
อย่างไรก็ตาม เบกกิ้งโซดาจะทำลายวิตามินบี 1 ในถั่ว และสร้างกรดอะมิโนทำให้ย่อยได้ยากขึ้น รวมไปถึงอาจส่งผลต่อรสชาติของถั่ว
หากคุณต้มถั่วของเรา จะมีฟองที่เกิดจากการต้มถั่ว นี่ไม่ใช่ดินจากถั่วแต่เป็นพวกโปรตีน ถั่วบางชนิดอาจเกิดฟองมาก ถั่วบางชนิดอาจเกิดฟองน้อย คุณสามารถตักฟองเหล่านั้นทิ้งได้เลย
คำแนะนำ
หากใส่น้ำมันบางชนิดเช่นน้ำมันหมู เนย ระหว่างต้มถั่ว น้ำมันเหล่านั้นจะช่วยลดการเกิดฟองระหว่างการต้ม
ถั่วของเราเก็บรักษาง่าย
คุณสามารถนำถั่วของเราไปแปรรูปและเก็บไว้ทานได้นาน โดยใช้เวลาเตรียมการเพียงแค่ 30 นาที หรือน้อยกว่านั้น ซึ่งสามารถทำได้ดังต่อไปนี้
- นำถั่วของเราดองบรรจุไว้ในกระขวดโหล
- ต้มถั่วให้สุก สามารถเก็บไว้ในตู้เย็นได้นานถึง 1 สัปดาห์หรือสามารถแช่แข็งไว้ได้นานถึง 6 เดือน
- ถั่วกระป๋อง

ส่วนผสมอื่น ๆ ที่ควรระวัง
การใส่ส่วนผสมที่เป็นกรด เช่น เครื่องปรุงรสจากแตงกวาดอง ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของมะเขือเทศ เช่น ซอสมะเขือเทศ รวมไปถึงไวน์ ผลไม้ หรือน้ำผลไม้ที่มีรสเปรี้ยว น้ำส้มสายชู จะทำให้ถั่วไม่นิ่ม
เบกกิ้งโซดา
(โซเดียมไบคาร์บอเนต)?
บางสูตรอาหารทั้งแบบเก่าและใหม่สำหรับถั่วจากอเมริกา แนะนำให้ใส่เบกกิ้งโซดาเพื่อช่วยลดแก๊ส คงสภาพสีของถั่วไว้ ทำให้ถั่วสุกเร็วขึ้น รวมไปถึงนิ่มง่ายขึ้น
อย่างไรก็ตาม เบกกิ้งโซดาจะทำลายวิตามินบี 1 ในถั่ว และสร้างกรดอะมิโนทำให้ย่อยได้ยากขึ้น รวมไปถึงอาจส่งผลต่อรสชาติของถั่ว
หากคุณต้มถั่วของเรา จะมีฟองที่เกิดจากการต้มถั่ว นี่ไม่ใช่ดินจากถั่วแต่เป็นพวกโปรตีน ถั่วบางชนิดอาจเกิดฟองมาก ถั่วบางชนิดอาจเกิดฟองน้อย คุณสามารถตักฟองเหล่านั้นทิ้งได้เลย
คำแนะนำ
หากใส่น้ำมันบางชนิดเช่นน้ำมันหมู เนย ระหว่างต้มถั่ว น้ำมันเหล่านั้นจะช่วยลดการเกิดฟองระหว่างการต้ม
ถั่วของเราเก็บรักษาง่าย
คุณสามารถนำถั่วของเราไปแปรรูปและเก็บไว้ทานได้นาน โดยใช้เวลาเตรียมการเพียงแค่ 30 นาที หรือน้อยกว่านั้น ซึ่งสามารถทำได้ดังต่อไปนี้
- นำถั่วของเราดองบรรจุไว้ในกระขวดโหล
- ต้มถั่วให้สุก สามารถเก็บไว้ในตู้เย็นได้นานถึง 1 สัปดาห์หรือสามารถแช่แข็งไว้ได้นานถึง 6 เดือน
- ถั่วกระป๋อง